วันศุกร์ที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

ผู้จัดทำ

ชื่อ นาย สดายุ  บัวทอง ชื่อเล่น  เคน
เกิด วันที่ 17  ตุลาคม 2539
อายุ 19 ปี
คณะ นิเทศศาสตร์
สาขา สื่อสารการกีฬา
มหาวิทยาลัยรังสิต
สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา 4.0 International.

คลิป


นักศึกษา : ขายน้ำสมุนไพรมานานแค่ไหน
เจ้าของร้าน : ประมาณ 2 ปีกว่าๆ
นักศึกษา : ทำไมถึงเลือกทำอาชีพนี้
เจ้าของร้าน :ทำงาน สะดวก และ เป็นอิสระ
นักศึกษา : รายได้ กำไร วันละประมาณเท่าไหร่
เจ้าของร้าน : 300-400 บาทต่อวัน
นักศึกษา : น้ำสมุนไพรที่คนนิยมดื่มมากที่สุดคือน้ำอะไร
เจ้าของร้าน : น้ำแตงโง สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ Attribution-NoDerivatives 4.0 International.

สรุปจากหนังสือ 3 เล่ม

สรุปจากหนังสือ 3 เล่ม

เปรม แสงแก้ว .สมุนไพรเพื่อสุขภาพ,กรุงเทพฯ:บริษัท ไพลินบุ๊คเน็ตจำกัด,2545

เชาว์ กสิพันธ์ .ตำราเภสัชศึกษา.สมชายการพิมพ์  บางยี่ขัน กทม.2523

เต็ม สมิตินันท์ .พันะ์ไม้ป่าเมืองไทย.กรมป่าไม้.กท. 2518

         
น้ำมะนาวโซดา

ก่อนที่จะไปสนุกกับเครื่องดื่มอื่น ๆ ที่มีน้ำมะนาวโซดาเป็นส่วนผสม ลองมาดูน้ำมะนาวโซดาแบบพื้นฐานกันก่อนเลย ว่าที่เขาฮิตดื่มกันเนี่ยมีส่วนผสมอะไรบ้าง

ส่วนผสม น้ำมะนาวโซดา
           
          • น้ำตาลทราย
          • น้ำ
          • น้ำมะนาวคั้น
          • โซดา
          • น้ำแข็ง

วิธีทำ น้ำมะนาวโซดา
           
          • 1. ทำน้ำเชื่อม โดยใส่น้ำตาลทรายและน้ำลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟปานกลาง คนผสมจนน้ำตาลทรายละลาย พักทิ้งไว้จนเย็น เตรียมไว้

          • 2. ใส่น้ำแข็งลงในแก้ว ตามด้วยน้ำเชื่อม น้ำมะนาว และโซดา คนผสมให้เข้ากัน เติมน้ำแข็ง พร้อมดื่ม

สมุนไพรเพื่อสุขภาพ

กระชายดำ

          สมุนไพรแสนมหัศจรรย์ของท่านชาย  เพราะสรรพคุณของกระชายดำที่ได้รับการกล่าวขานกันมากก็คือ สรรพคุณเพิ่มพลังทางเพศ หรือแก้โรคกามตายด้าน เนื่องจากฤทธิ์ของกระชายดำจะไปบำรุงกำลัง เพิ่มฮอร์โมนให้หนุ่ม ๆ ทำให้สมรรถภาพทางเพศเพิ่มขึ้น

          แต่ใช่ว่า กระชายดำ จะมีประโยชน์แค่เรื่องเพิ่มพลังทางเพศเท่านั้นนะ เพราะกระชายดำยังสรรพคุณมากมาย ทั้งบำรุงหัวใจ บำรุงกำลัง เป็นยาเจริญอาหาร และบำรุงธาตุ แก้หัวใจสั่นหวิว แก้ลมวิงเวียนแน่นหน้าอก แผลในปาก ช่วยให้โลหิตหมุนเวียนดีขึ้น ผิวพรรณผ่องใส ขับปัสสาวะ แก้โรคกระเพาะ ฯลฯ และด้วยสรรพคุณอันแสนมหัศจรรย์มากมายขนาดนี้ กระชายดำ เลยถูกขนานนามว่าเป็น "โสมไทย" ซึ่งนิยมปลูกมากจนกลายเป็นพืชเศรษฐกิจของจังหวัดเลยทีเดียว

น้ำสมุนไพรดับกระหาย
ดอกเก๊กฮวย

 อาจไม่เชิงเป็นสมุนไพรไทยเท่าไหร่ แต่ถือว่าหาทานได้ง่าย ถึง ง่ายมากในเมืองไทย ซึงเก๊กฮวยเป็นพืชพื้นเมืองของประเทศจีน เป็นพืชล้มลุกอยู่ในตระกูลเดียวกับเบญจมาศ สำหรับชื่อแบบไทยๆบางคนก็เรียกว่า เบญจมาศสวน หรือเบญจมาศหนู เก๊กฮวยจะมีดอกสีขาว และสีเหลือง สรรพคุณเป็นยาเย็น ดับพิษร้อน แก้ร้อนใน ขับลม ขับเหงื่อ เป็นยาแก้ปวดท้อง และช่วยระบาย ช่วยป้องกันโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ ป้องกันโรคความดันสูง แก้อาการไข้ แก้ไอ แก้เวียนหัว หน้ามืด
 สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์


ประวัติ น้ำสมุนไพร

ประวัติ น้ำสมุนไพร

น้ำสมุนไพรเข้าถึงได้จาก
www.clinicchaiyo.net/article/2/สมุนไพรไทย





เพราะอย่างที่รู้กันว่าสมุนไพรนั้นเป็นผลิตภัณฑ์ที่ธรรมชาติสร้างมาให้มนุษย์ได้นำมาใช้ประโยชน์สารพัดทีเดียว ทั้ง ดื่ม, กิน หรือแม้กระทั่งนำมาใช้รักษาโรค แต่วันนี้มาดูกันว่า ประโยชน์จากสมุนไพรที่เราสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันในวันนี้นั้น เรามารู้จักสมุนไพรเกี่ยวกับการนำมาใช้เป็นเครื่องดื่มกันค่ะ

                ถ้าพูดถึงสมุนไพรคนส่วนใหญ่มักจะนึกถึงส่วนของพืช ที่นำมาใช้เป็นยารักษาโรค แต่ในความเป็นจริงคือส่วนประกอบที่ได้จาก พืช สัตว์ และแร่ธาตุต่างๆ ก็เป็นสมุนไพรแทบทั้งสิ้น แต่สมุนไพรที่ได้จาก ผัก ผลไม้ ธัญพืช

                คนมักใช้กินเป็นอาหารในชีวิตประจำวัน เพราะเป็นแหล่งโปรตีน วิตามินและแร่ธาตุรวมทั้งสารอื่นๆ ซึ่งล้วนแต่มีความจำเป็นต่อร่างกายที่จะนำไปสู่สุขภาพที่ดี

                ปัจจุบันนี้เครื่องดื่มประเภทน้ำสมุนไพรได้เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้น ไม่ว่าที่บ้าน โรงเรียน งานเลี้ยง ซึ่งน้ำสมุนไพรเหล่านี้ได้จากการนำส่วนประกอบต่างๆ ของพืช ได้แก่ ผลไม้ ผัก/ธัญพืชต่างๆ นำมาแปรรูปให้ตรงกับความต้องการของเรา เช่น ผัก ผลไม้กินทุกวันบางครั้งจะเบื่อในรสชาติ หรือบางคนไม่ชอบกินผักผลไม้บางชนิด เราก็สามารถนำมาทำเป็นเครื่องดื่มในรูปของ น้ำผลไม้ น้ำผัก/ธัญพืช ถ้ามีเหลือมากๆ อาจนำมาตากแห้ง หรืออบแห้งเป็นชาสมุนไพรก็ได้

                ยิ่งในฤดูร้อนเครื่องดื่มจะมีความหมายมากเพราะช่วยลดอาการกระหายน้ำ ลดอาการเหนื่อยเพลีย เนื่องจากเหงื่อออกมาก ดังนั้นควรทำไว้ดื่มกินเอง จะช่วยประหยัด สะอาด ถูกสุขลักษณะ

                การนำสมุนไพรมาใช้นั้นถ้าเป็นผักผลไม้ นำสมุนไพรมาล้างให้สะอาด เช่น ฝรั่ง มะม่วงดิบฯลฯ ก็ควรนำมาฝาน แล้วตำด้วยครกให้ละเอียด หรือขูดให้เป็นฝอย เติมน้ำแล้วคั้นด้วยผ้าขาวบางหรือจะใช้เครื่องปั่นน้ำผลไม้ชนิดแยกกากก็ได้ แต่ถ้าเป็นสมุนไพรประเภทมะเขือเทศ แตงโม ลูกเดือยฯลฯ

                การใช้เครื่องปั่นน้ำผลไม้ปั่นจนละเอียดไม่ต้องกรอง ปรุงรสด้วยเกลือป่น น้ำเชื่อม ชิมรสตามใจชอบ ส่วนสมุนไพรประเภทชาชงที่ผ่านการตากแห้งหรืออบแห้งแล้ว ประมาณ 1-2 ช้อนชาเติมน้ำร้อนทิ้งไว้สักครู่ ก่อนดื่มควรกรองเอากากออก สำหรับการดื่มที่ดีควรดื่มแบบชิมช้าๆ และควรดื่มทันทีหลังปรุงเสร็จ เพื่อให้ได้คุณค่าทางอาหารและทางยามากกว่าปล่อยทิ้งไว้นานแล้วดื่ม เพราะจะทำให้คุณค่าลดลง การดื่มน้ำสมุนไพรจะได้ทั้งกลิ่นและรสตามธรรมชาติของสมุนไพรนั้นๆ และยังมีคุณค่าทางยาอีกด้วย เช่น น้ำมะขาม ช่วยลดอาการกระหายน้ำ ทำให้อุณหภูมิในร่างกายลดลง น้ำใบเตย น้ำใบบัวบก เป็นยาเย็นช่วยบำรุงหัวใจ น้ำมะเขือเทศ มีคุณสมบัติช่วยย่อย

                เครื่องดื่มเหล่านี้เป็นได้ทั้งอาหารและให้คุณค่าจึงอาจกล่าวได้ว่าน้ำสมุนไพรจึงเป็นยาช่วยบำรุง ปกป้องรักษา สภาพสภาวะสมดุลทำให้มีสุขภาพดี

                ไม่ว่าจะเป็นน้ำผลไม้ น้ำผัก/ธัญพืชหรือชาสมุนไพร จะมีสักกี่คนที่จะรู้ว่าเมื่อดื่มน้ำสมุนไพรแล้วร่างกายกระชุ่มกระชวยมีชีวิตชีวา คลายเครียดและยังช่วยลดสารพิษ คุณค่าอันมากมายเหล่านี้ทุกคนล้วนหาได้ไม่ยาก และถ้าหากต้องใช้เป็นเครื่องดื่ม ไม่ว่าจะในชีวิตประจำวัน งานเลี้ยง ประชุมต่างๆ ก็ให้นึกถึงน้ำสมุนไพร จะทำให้ผู้ดื่มมีสุขภาพดีขึ้น

สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ Attribution-NoDerivativ

สรุปสิ่งที่ได้

สรุปสิ่งที่ได้

ชื่อเรื่อง  น้ำสมุนไพร

แนวคิด    เกิดจากแนวคิดความสนใจในเรื่องน้ำสมุนไพรและความนิยมชองคนที่รักรักสุขภาพ

วัตถุประสงค์ของงาน   เพื่อเป็นแนวทางให้ผู้ที่สนใจเกี่ยวกับน้ำสมุนไพร

ระยะเวลา   2  เดือน

งบประมาณ -

วิธีการได้มาซึ่งข้อมมูลการเลือกแหล่งสารสนเทศ-หาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต ค้นหาจากหนังสือ
วิธีการรวบรวมสารสนเทศ-ลงพื้นที่สัมภาษ์
วิธีการประเมิน และคัดเลือกสารสนเทศมาใช้-คัดเลือกความเหมาะสมของข้อมูล
วิธีการปรับเรียง และนำเสนอ
ปัญหาและอุปสรรคการดำเนินงาน-ข้อมูลจากหนังสือและความล้าสมัย


บรรณานุกรม
เปรม แสงแก้ว .สมุนไพรเพื่อสุขภาพ,กรุงเทพฯ:บริษัท ไพลินบุ๊คเน็ตจำกัด,2545

เชาว์ กสิพันธ์ .ตำราเภสัชศึกษา.สมชายการพิมพ์  บางยี่ขัน กทม.2523

เต็ม สมิตินันท์ .พันะ์ไม้ป่าเมืองไทย.กรมป่าไม้.กทม.2518


สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา 4.0 Int

วิธีและขั้นตอนการทำน้ำสมุนไพร (ตัวอย่าง)

วิธีและขั้นตอนการทำน้ำสมุนไพร (ตัวอย่าง)

น้ำเก็กฮวย ดื่มแก้ร้อนใน กระหายน้ำ เป็นยาช่วยย่อย มีฤทธิ์ระบายอ่อนๆ

ส่วนผสม

- ดอกเก๊กฮวยแห้ง

- น้ำตาลทราย 3-5 ช้อนโต๊ะ

- น้ำเปล่า 1.5 ลิตร



วิธีทำ

1.นำเก๊กฮวยที่เตรียมไว้ ล้างน้ำให้สะอาด ใส่ลงไปในหม้อ เติมน้ำเปล่าลงไป จากนั้นเคียวไฟประมาณ 5 นาที

2.เติมน้ำตาลทรายลงไป ชิมรสตามใจชอบ

3.เคี่ยวต่อให้น้ำตาลละลายดี จากนั้นปิดไฟ เสิร์ฟใส่แก้ว หรือนำไปแช่เย็นก็ได้



น้ำใบบัวบก ดื่มแก้ร้อนใน กระหายน้ำ ทำให้สดชื่น แก้อักเสบหรือช้ำใน เป็นยาบำรุง ขับปัสสาวะ มีวิตามินและแคลเซียมในปริมาณสูง

ส่วนผสม

- ใบบัวบก 500 กรัม

- เกลือป่น 2 ช้อนชา

- น้ำตาลทราย 2 ถ้วยตวง

- น้ำต้มสุก 6 ถ้วยตวง



วิธีทำ

1.ตัดก้านบัวบกห่างจากโคน 2 นิ้ว จากนั้นล้างน้ำให้สะอาด แล้วแช่น้ำทิ้งไว้

2.นำใบบัวบกมาหั่นหยาบๆ แล้วนำไปใส่ลงในเครื่องปั่น

3.เติมน้ำสุกครั้งละ 2 ถ้วยตวง ต่อใบบัวบก 150 กรัม ปั่นให้ละเอียด

4.เทน้ำใบบัวบกที่ปั่นแล้ว กรองในกระชอนที่มีผ้าขาวบางซ้อนกัน 2 ชั้น

5.ใส่เกลือป่นลงไป 2 ช้อนชา ลงในน้ำที่กรองไว้ แล้วนำมาแช่เย็นเก็บไว้

6.ทำน้ำเชื่อมโดยการใช้น้ำ 1 ถ้วยตวง และน้ำตาล 2 ถ้วยตวง จั้งไฟทำน้ำเชื่อมเข้มข้น

7.ใส่น้ำเชื่อมลงไปในน้ำใบบัวบกที่กรองเรียบร้อยแล้ว ก็จัดเสิร์ฟได้



น้ำมะตูม เป็นยาระบายขับลม แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ ช่วยย่อยอาหาร บำรุงธาตุ ช่วยเจริญอาหาร ขับเสมหะ และแก้อาการร้อนในได้ดี

ส่วนผสม

- มะตูมแห้ง 8 กรัม

- น้ำ 300 กรัม

- น้ำตาลทราย 15 กรัม



วิธีทำ

1.นำมะตูมแห้งไปปิ้งไฟจนมีสีเหลืองจัด

2.ต้มน้ำให้เดือด ใส่มะตูมลงไป เครียวสักครู่

3.เติมน้ำตาลทราย แล้วคนให้ละลายเข้ากัน ชิมรสตามใจชอบ

4.ยกลงกรองด้วยผ้าขาวบาง จัดเสิร์ฟใส่แก้ว



น้ำตะไคร้ ตะไคร้มีวิตามินเอ ช่วยบำรุงสายตา นอกจากนี้ยังมีแคลเซียมและฟอสฟอรัส ช่วยบำรุงกระดูกและฟัน ดื่มแก้ท้องอืดท้องเฟ้อ ขับลม ลดความดันโลหิตสูง ช่วยขับปัสสาวะ ขับเหงื่อได้ดี ลดพิษของสารแปลกปลอมในร่างกาย

ส่วนผสม

- ตะไคร้สด 200 กรัม

- น้ำ 8 ถ้วยตวง

- น้ำตาลทราย 3-5 ช้อนโต๊ะ



วิธีทำ

1.น้ำตะไคร้มาหั่นให้เป็นท่อนๆ

2.ใส่ตะไคร้ลงในหม้อต้ม รอน้ำเดือด 1-2 นาที จึงยกลง

3.ใส่น้ำตาลทรายลงไป คนให้ละลายเข้ากัน

4.ชิมรสชาติตามใจชอบ จึงตักเสิร์ฟใส่แก้ว



น้ำกระเจี๊ยบ ดื่มแล้วให้ความสดชื่น แก้กระหาย ช่วยแก้ไอ กัดเสมหะ ขับปัสสาวะ เป็นยาระบายอ่อนๆ

ส่วนผสม

- กระเจี๊ยบสดหรือแห้ง 1½ ขีด

- น้ำสะอาดขนาด 1 ลิตร 4 ขวด

- น้ำตาลทราย ¾-1 กิโลกรัม

- เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ



วิธีทำ

1.นำกระเจี๊ยบที่เตรียมไว้มาล้างน้ำให้สะอาด ใส่ในหม้อ เติมน้ำลงไป แล้วนำไปตั้งไฟ

2.เคี่ยวประมาณ 30-40 นาที จนกระเจี๊ยบเปื่อย สีของน้ำที่ต้มเป็นสีแดง จึงปิดไฟยกลง

3.กรองน้ำกระเจี๊ยบด้วยผ้าขาวบาง 2 ชั้น เพื่อเอากากออก ใส่น้ำตาลทรายลงไป คนให้น้ำตาลละลาย ใส่เกลือป่นนิดหน่อย

4.ชิมรสชาติตามใจชอบ จึงจัดเสิร์ฟ



น้ำใบเตย ช่วยลดอาการกระหายน้ำ แก้อ่อนเพลีย และช่วยบำรุงหัวใจ

ส่วนผสม

- ใบเตยสด 3-4 ถ้วยตวง

- น้ำ 8 ถ้วยตวง

- น้ำตาลทราย 2 ถ้วยตวง



วิธีทำ

1.นำใบเตยที่เตรียมไว้มาล้างให้สะอาด จากนั้นหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ

2.ต้มน้ำให้เดือด จากนั้นนำใบเตยที่หั่นแล้วใส่ลงไป ทิ้งไว้สักพัก

3.ใส่น้ำตาลทรายลงไปแล้วคนให้ละลาย

4.นำหม้อลงจากเตา กรองน้ำใบเตยด้วยผ้าขาวบาง แล้วจัดเสิร์ฟใส่แก้ว



น้ำว่านหางจระเข้ ในวุ้นของว่านหางจระเข้มีสารสำคัญออกฤทธิ์สมานแผล ช่วยเร่งการเจริญเติบโตของเซลล์ที่อยู่รอบๆ แผล ช่วยบำรุงร่างกายเนื่องจากการอ่อนเพลียพักผ่อนน้อย และช่วยระบบขับถ่ายให้เป็นปรกติ

ส่วนผสม

- ว่านหางจระเข้ 1 ถ้วยตวง

- น้ำสะอาด 1 ถ้วยตวง

- น้ำผึ้ง ½ ถ้วยตวง



วิธีทำ

1.นำว่านหางจระเข้มาปอกเปลือก แล้วแช่น้ำทิ้งไว้สักพัก

2.ล้างเพื่อเอาน้ำยางออกให้หมด ทำความสะอาดบริเวณลำต้นให้สะอาด

3.หั่นว่านหางจระเข้เป็นชิ้นเล็กๆ ใส่เครื่องปั่นเติมน้ำลงไป ปั่นให้ละเอียด

4.นำว่านหางจระเข้ที่ปั่นแล้วมากรองด้วยผ้าขาวบาง เพื่อกรองเศษของว่านออกเหลือแต่น้ำ

5.ใส่น้ำผึ้งลงในน้ำว่านหางจระเข้ คนให้เข้ากัน เสร็จแล้วจัดเสิร์ฟใส่แก้ว
 สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์

ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 Internationa